ครั้งนี้เป็นเรื่องของแพรเองค่ะ คงต้องย้อนไปราวๆช่วง17-21ค่ะ ถัดจากlovecase3 ซึ่งหลังจากเลิกคนนั้นมาแพรก็เจอคนที่ดีกว่ามาดามใจ
เกริ่นก่อนว่าหนุ่มคนนี้ที่ได้เจอกันเพราะพ่อสื่อคือเพื่อนแพรเอง ด้วยความที่โสดและเจอเรื่องราวที่ไม่ดีมาซักพักก็พูดกับเพื่อนสนิทเล่นๆค่ะ
แพร: เฮ้ย แกเพื่อนแกที่รร.มีโสดๆบ้างป้ะ
เพื่อน: ไม่ค่อยมีว่ะ มีแต่มีแฟนมีเมียหมดแล้วเอาป้ะล่ะ 😂
ส่วนใหญ่ก็มักจะเจอประโยคนี้เสมอเวลาถามเพื่อนชายคนไหน จนกระทั่ง1อาทิตย์ผ่านไปแพรเจอjackpot!!!ค่ะ เราเจอกันทางmsn (เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักแต่ตอนนั้นแพรก็อยู่ม.5 จวนจะม.6) เค้าแอดมาคุยมาอะไร สุดท้ายก็ยอมรับว่า เพื่อนแพรนี่แหละค่ะ หาให้ฮ่าๆๆ ด้วยประโยคเดียวกันที่เพื่อนเล่า
แฟนแพร: เฮ้ย โย่ มึงมีหญิงโสดๆแนะนำให้บ้างป้ะ
เพื่อนแพร: ก็มีอะ เอาเมลล์ไปคุยละกัน
เลยกลายเป็นเหตุที่เราได้เจอกันค่ะ
ชายหนุ่มคนนี้ตรงสเป็คแพรทุกอย่าง สูง ขาว ตี๋ หุ่นดี นิสัยดี มีโมเม้นน่ารัก เรียกได้ว่า เค้าก็โอเคนะคะ เลิกเรียนทุกๆวันแพรก็จะไปรอเค้าทุกวันที่แถวเมเจอร์รัชโยธินเพราะรร.เค้าเลิกช้ากว่า เป็นแบบนี้มาราวๆ1-2ปีจนเรา2คนเข้ามหาลัยค่ะ แพรสอบติดย่านอนุเสาวรีย์ชัย เค้าเองก็เรียนใกล้บ้าน ตอนนั้นต่างคนต่างเจอสังคมใหม่ๆ ซึ่งเป็นเรื่องเสี่ยงนะสำหรับคนที่คบมาตั้งแต่มัธยม-เข้ามหาลัย
กลับมาตอนช่วง18-19 วัยกำลังตามฝันและมีความหวังต่างๆสิ่งเร้าใจ และโลกใหม่ตอนนั้นแพรโอเคกับชีวิตในรั้วมหาลัยมาก มีเพื่อนที่ใหม่ แชร์ทุกอย่างจนแพรไม่รู้ตัวว่าตัวเองเปลี่ยนไป ในตอนนั้นสาขาของแพรมีผู้ชายเยอะมาก 30-40คนได้ แต่มีผู้หญิงราวๆ10กว่าคนแค่นั้นแถมห้องแพรมีผู้หญิงแค่7คนค่ะ ที่เหลือก็มีแต่ผู้ชายราวๆ20 ในทุกๆวันแพรไม่เคยลืมเสมอว่าแพรมีแฟน แต่ที่นี่เรียนหนัก มีการรับน้อง การบ้านเยอะทำให้กลับถึงบ้านทีก็3-4ทุ่ม จากอนุเสาวรีย์มารามอินทราไม่ใกล้เลย และก็ตามประสาเพื่อนผู้ชายที่ชอบแซว เช่น ' เฮ้ย คุยกับใครอะแอบนอกใจเราหรอ, เอ่าคนที่คุยนี่ไม่ใช่คนเมื่อวานนี่' จากเรื่องขำขันกลายเป็นเหตุ ที่นอกใจ
ด้วยความที่คนรักของแพรเจอแบบนี้ทุกวันและแพรบริสุทธิ์ใจพอแต่คงไม่มากพอที่จะทำให้เค้าเชื่อได้ เค้าไม่เคยได้รับรู้ มารู้จักเพื่อนแพรหรือสังคมที่นี่ จนเค้าเข้าใจผิดมาตลอด จากตอนนั้นแพรน้อยใจค่ะที่เราพูดความจริงแล้ว เราเรียนหนัก เราถูกซ่อมและรับน้อง เราการบ้านเยอะ เค้าไม่เคยรับรู้และเข้าใจตรงนี้กลับเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดมาจนแพรเองรู้สึกไม่โอเค และตอนนั้นก็มีจังหวะเหมือนความผิดเข้าข้างตรงที่ มีเพื่อนร่วมห้องทักมาในM(msn)และเข้าใจเรามากกว่าที่แฟนเราเข้าใจ และจะเหลืออะไรล่ะคะ นอกจากความรู้สึกของแพรตรงนั้นเอนมาทางคนนี้มากกว่า...
'ได้ หากคิดว่านอกใจมาก ชั้นจะทำให้มันเป็นจริงเอง'
อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ แพรคิดแบบนั้นจริงๆ ในเมื่อตลอดเวลาเราไม่เคยมีเรื่องตรงนี้ และเค้าไม่เคยเข้าใจ แพรแค่อยากให้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เค้าไม่เคยเข้าใจเราเลยตลอดมาที่เรียนมหาลัย เราเลยอยากทำให้เห็นว่านี่คือการนอกใจจริงๆที่ไม่ใช่แค่คนอื่นพูดกันเล่นๆอีกต่อไปแล้ว และไม่นานสมใจค่ะ เราเลิกกันจริงๆ แพรเองก็คบกับคนในห้องได้เดือนกว่าๆ จวบกับตอนนั้นแฟนแพรเองก็มีคนแนะนำให้รู้จักอีกคน ตลอดเวลาที่เลิกกันแพรได้แต่ตามดูHi5 (ดักอายุไปอีก) เห็นเค้ามีความสุข เค้าใกล้กัน เราก็เจ็บนะ แต่เราเลือกเดินเองและเค้าไม่เคยฟังและไม่เข้าใจ จนสุดท้าย ผล เริ่มแสดงออกมาเป็นกรรม
ยอมรับว่าแพรนอกใจจริงๆหลังจากนั้นเพราะประชด และเรื่องตรงนี้เกิดซ้อนอีกทีตรงที่ คนในห้องที่แพรคบอยู่ ก็แอบคบใครอีกคนเช่นกัน..
แพรสืบมาซักระยะจนแน่ใจเลยขอเลิกกับเค้าด้วยการที่เราไม่บอกว่าเรารู้เห็น และจวบกับกำลังจะกลับไปดีกับแฟนเก่า มันเป็นเรื่องที่ฟังดูแย่ มันเป็นผลจากการกระทำที่เราเริ่มก่อน ก็ได้แต่ไม่เข้าใจว่า ตกลงทำดีแล้วเราได้อะไร จึงยุติกับคนใหม่เพียงเวลา1เดือนและหลังจากนั้นเราก็ยังเป็นเพื่อนร่วมห้องตามปกติ
ผลซ้ำร้ายกว่านั้นเริ่มแสดงผลอัตโนมัติตอนที่กลับมาคบคนเก่า เรากลับมาเพราะยังตัดไม่ขาด เค้าเองก็ขอโทษ เราเองก็ขอโทษเลยอยากให้ปรับความเข้าใจกันดีๆ และเราคบกันต่ออีกราวๆ2-3ปีค่ะ ตลอดช่วงเวลานี้มันกลายเป็นบาดแผลในใจของอีกฝ่ายไปแล้วโดยเราเป็นคนสร้าง ปีหลังๆเค้าเริ่มเปิดใจรับสังคมของเรา เข้าใจงานที่เราต้องทำการบ้านที่เรามี แต่มันช้าไปที่ปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ก่อน ในเกือบทุกอาทิตย์แพรท้อใจตรงที่เค้าเองระแวงเราอยู่ตลอดเวลา แม้พยายามไม่ทะเลาะกันแค่ไหน แต่เรื่องที่ยกมาบ่อยที่สุดคือเรื่องที่นอกใจและแพรก็ยกเรื่องที่เค้าไม่เคยเข้าใจแพรมาตลอด ช่วงเวลา2-3ปีนั้นวนอยู่แบบนี้ มันก็มีความสุขปนความระแวงของเค้า จนสุดท้าย เราตัดสินใจเลิกค่ะ แต่เป็นเพราะงานที่ห่างและเค้าเข้ามาในจังหวะที่ไม่เหมาะสมเรื่องงานเท่าไหร่ เลยจบเรื่องราวตรงนั้นและเป็นเพื่อนกันค่ะจนถึงตอนนี้
สรุป
•ในตอนนั้นเค้าเองก็พอรู้ค่ะ แต่ไม่มีเซ้นส์แต่เค้าสังเกตจากท่าทีของเราที่เปลี่ยนไปแม้เวลาทุกวันของแพรเหมือนเดิม
•เค้าเองก็ยังไม่เข้าใจว่าเค้าผิดตรงไหนเลยเกิดปัญหาเรื่องนี้
•หลังจากกลับมาคบ เค้าเองก็ได้ยอมรับในจุดที่บกพร่องและกลับมาทำมันให้ดี แต่คงช้าไปแล้วค่ะ เพราะเค้ามีแผลในใจและความระแวงไปแล้ว
•ระหว่างนั้นสิ่งที่เค้าและคนรอบข้างอยู่ด้วยพูดเสมอให้ปล่อยวาง ถ้าจะใช่ก็คงใช่เองที่ไม่ใช่ก็ปล่อย
•ในมุมมองแพรหลังจากนั้นเหมือนกรรมที่ตกมา ไม่เคยนอกใจใครอีกมีแต่แพรที่เจอแต่คนเจ้าชู้หรือมีแฟนแล้ว จากพฤติกรรมของเรา หรืออาจเป็นสิ่งตกค้างที่เราเคยทำไว้ให้เค้าเสียใจเราจึงต้องใช้ให้หมด
•จากเรื่องนั้นมา การยอมรับและการเข้าใจสำคัญมากๆค่ะ ที่จะต้องกลับมาพูดคุยก่อนที่จะสาย
•ตั้งแต่เข้ามหาลัย แพรติสท์มาขึ้น มีโลกส่วนตัว พูดจาแรงมากขึ้น(ตอนนี้ปรับแล้ว) อัพเดททันโลกและมีชีวิตที่อิสระมากขึ้น จนคนรอบข้างสังเกตได้แต่เราไม่เคยรู้ตัว มุมมองและความคิดของเราเปลี่ยนไปมาก ที่ไม่เหมือนมัธยม เพราะที่นี่มันคือโลกและชีวิตจริงที่ไม่ใช่safe zone
•แพรคิดว่าโลกมันกว้างนะ และเราควรที่เปิดใจรับอะไรใหม่ๆ อยู่ที่ว่าจะเปิดใจช้าหรือเร็ว หรือไม่เคยเลย เรามีโอกาสได้เจอคนใหม่ๆเราไม่มีทางรู้หรอกค่ะ ว่าอนาคตของเราจะเป็นยังไงนอกจากลงมือในทุกๆวันให้ดีและเป็นอนาคต อะไรใหม่ๆอยู่มากแต่ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะมีสติในการใช้ชีวิตมากแค่ไหน และต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จุดนี้เป็นสิ่งที่แพรยึดเสมอ
•จากเรื่องนี้ ไม่ว่าใคร ความรู้สึกของทุกคนมีค่าค่ะ เพราะเค้าเองก็มีหัวใจ มีความคิด และความรู้สึก
ปล.เรื่องนี้ได้รับอนุญาตแล้ว ขอบคุณนะคะB
ปล2. โลกสมัยนี้เปลี่ยนไปไวนะคะ แต่ความเข้าใจก็ยังสำคัญ ถ้าคุณยังจับมือกันแน่นพอและพร้อมไปด้วยกัน จะไม่เกิดปัญหาตรงนี้
ปล3. ทุกวันนี่แพรไม่เคยนอกใจ และอดีตคนรักของแพรก็แก้ไขด้วยการใช้ความเข้าใจกับรักใหม่ของเค้าเสมอ พยายามที่จะเรียนรู้และเปิดใจให้มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ
ปล4. หัวเรื่องเขียนถูกแล้วค่ะ เพราะมีเหตุ จึงทำให้เป็นผล เหตุผลจึงแยกจากกัน
Comments