top of page
รูปภาพนักเขียนPrae

lovecase 3 จุดเปลี่ยนของชีวิต

อัปเดตเมื่อ 19 ส.ค. 2562



วันนี้คงต้องย้อนไปราวๆเกือบสิบปี ตอนแพรอายุ17


เค้ามาจีบ เค้าทุ่มเท เค้าเป็นกันเอง เกริ่นมาแค่คำเหล่านี้ในช่วงวัยนั้นมันดูโอเคเพราะยังไม่คิดอะไรมาก ไม่คิดว่าชีวิตจะมีปัจจัย detailมากมายเพื่อให้มีชีวิตอยู่ เพื่อสร้างสานฝันตามเจตนารมณ์ต่างๆ ตามแบบที่ใจต้องการ ย้อนไปที่แพรในตอนนั้น เลิกกับแฟนคนแรกมาได้ซักพัก ก็พบกับคนใกล้บ้าน


เป็นคนที่พบเจอบ่อย เป็นคนที่มีอายุมากกว่าตอนนั้นเค้า21 เรา17 ชีวิตวัยรุ่นปกติเลยค่ะ กินข้าว ดูหนัง ที่สำคัญซ้อนมอไซค์ค่ะ ฮ่าๆๆ จนพอตกลงคบกันไม่นานด้วยเหตุผลง่ายๆเพียง 'พี่เค้าก็ดีนะ และเราก็ไม่ได้มีใคร ก็คงไม่เป็นไร' ตอนนั้นคิดแค่นั้นจริงๆค่ะ จวบกับเพื่อนรอบข้างเค้าก็มีแฟน หันไปไหนมีแต่คนคุย คนมารับ ในภาวะนั้นเราไม่ได้อิจฉานะ แต่แค่รู้สึกว่าเราแปลกไปมั้ย? หมดคาบ เค้าก็โทรหากัน? เลิกเรียนแฟนเค้ามารับ? เรากลับบ้านกินข้าวคนเดียว ? เสาร์อาทิตย์ปิดเทอมก็ไปทำงานparttime มันเกือบจะดีตรงที่เหมือนเราเคว้งอยู่คนเดียว

จนพอวินาทีที่ตกลงใจ ใครจะไปรู้ล่ะว่าหลังจากนั้น ชีวิต เ ป ลี่ ย น


จากที่ทุ่มเท ไปรับไปส่ง กินข้าว หรือดูหนังหายไปในพริบตา ไม่เคยมี และไม่เคยได้ไปไหน ลองถามและอยากย้อนวันวานเหมือนตอนแรก ก็ได้คำตอบมาแค่-'จะไปทำไม ก็รอแผ่นสิ่ พี่ไม่ว่าง พี่ง่วงนอน ก็รู้ๆอยู่ว่าคนทำงานดึกจะเอาไรนักหนา' - พอได้ยินก็หมดคำถามแล้วค่ะก็ได้แต่แค่ว่าช่างเถอะ คงเหนื่อยจริงๆพี่เค้าเรียนไป ทำงานไป เรายังคบกันแบบนี้ได้เดือนกว่าๆ ทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น สิ่งที่แสดงออกตอนแรกมันหายไป เหลือเพียงแค่ชีวิตมนุษย์จริงๆ ค่ะ กิน ขี้ พรี้ นอน repeat<<< เราเริ่มรู้สึกว่าไม่โอ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเจ้าตัวเล่นมาอยู่ที่บ้าน!!


ลำพังตอนนั้นมีปัญหาครอบครัวค่ะ ที่บ้านแยกทางกัน เค้าเลยเป็นคนเดียวในตอนนั้นที่ทดแทนสิ่งที่ขาด นั่นคือ'ความรัก' เค้าเริ่มวางกฏเกณฑ์

-เลิกเรียนต้องกลับบ้าน

-ถ้าว่างก็ช่วยครอบครัวเค้าขายของ

-ห้ามมีคนอื่น

-สนองได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

และอีกมากมาย

แรกๆก็โอเคนะ แต่พักหลังไม่ใช่เค้าเริ่มหาเรื่องทะเลาะกันมากขึ้น แพรเองก็ไปหาใครไม่ได้ ไปได้ไกลสุดแค่ตลาดในซอยบ้าน เพื่อนสนิทก็ไปหาไม่ได้กลับมาทะเลาะกันตลอด และร้ายสุดคือการเริ่มลงมือ..

เราเริ่มรับไม่ได้กับตรงนี้ ทุกๆวันทะเลาะและใช้กำลังตลอด แถมตอนนั้นกับกลุ่มเพื่อนก็เลิกคบกันไปอีก ปัญหาต่อมาคือขาดเรียน และไม่นานแฟนก็เกิดอุบัติเหตุรถล้ม ชีวิตพัง ของจริงค่ะ เงินทุกบาทที่พ่อให้เค้าเอาไปใช้หมด มีอะไรให้ไปขอที่ครอบครัวเค้า ทุกๆวันจะrepeat ซ้ำอยู่แบบนี้ ทะเลาะ>ลงมือ>sex วนเวียนจนเรารู้สึกว่าพ่อแม่เรายังไม่ทำแบบนี้เลย บางวันที่พ่อมา เค้าเองก็เจอนะคะ แต่ก็อดไม่ได้มีทำร้ายร่างกายแต่เงียบ โดยที่บ้านเราก็ไม่รู้ เราเองก็ผิดที่เก็บเงียบเพราะกลัวว่าเราจะไม่ได้คบกัน ยิ่งเค้าเองเจอเหตุมาไม่สบอารมณ์ ไม่พอใจ โดนหมด


และจุดเปลี่ยนก็มาถึง

ตอนนั้นแม่รับรู้ว่ามีแฟน ถึงขั้นผู้ใหญ่คุยกันว่าจะแต่ง เราเองก็ได้แต่ฟังและทำอะไรไม่ได้ ทางฝ่ายชายขอเวลาหาเงิน

และที่รร.ในตอนนั้นทางครูประธานม.5 ได้เรียกคุยถึงปัญหาที่เราขาดเรียน เราเองก็ตอบได้ไม่เต็มปาก แต่จะพยายามมาเรียนให้ได้มากที่สุด


ในตอนนั้นช่วงที่ทบทวนชีวิตด้วยตัวเอง และคิดมาซักพัก ในเมื่อ เพื่อนก็คุยไม่ได้ พ่อแม่ที่แยกทางไป เราก็คุยไม่ได้ จำเป็นที่ต้องตัดสินใจอยากเลิก! แต่จะทำได้ไงล่ะ เค้าคุยกันขนาดนี้แล้ว เราเหลือเวลาเท่าไหร่?

จนวินาทีที่รอรถกลับบ้านที่ตลาด ได้พบเห็นสิ่งนึงแล้วกลับมาคิด "ภาพที่เห็นตรงหน้า คือรุ่นน้องในโรงเรียน เราไม่รู้จักเค้าหรอกแต่เห็นว่า น้องเค้าอ่อนกว่าเรา2-3ปี เค้ามีครอบครัวเร็วจัง ซ้อนรถ พร้อมอุ้มลูกอ่อน ผ่านหน้าเราไป"

และช่วงนั้นก็ทำให้ได้คิดหลายอย่าง แถมตอนนั้นเองทะเลาะกับพ่ออีก เรามีทางเลือกไม่มากแล้ว


•สิ่งที่คิดตอนนั้นเข้ามาว่า? เห้ยยย เราเพิ่ง17เอง เราต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้หรอวะ? อนาคตเราจะฝากไว้กับคนห่วยๆแบบนี้หรอ เราอยากมีชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป เหมือนในทีวี ในห้าง และคนที่เรารู้จัก แล้วนี่เราจะต้องมาอยู่กับคนแบบนี้ตลอดชีวิตจริงๆหรอ?" เพราะความคิดนี้จริงๆ เลยพยายามเลิก จนสำเร็จและไม่สวย มีการทำร้ายร่างกายหนักมากจนข้างบ้านอยากช่วย แต่ด้วยคำที่ว่า" ไม่มีอะไรครับ แฟนกันทะเลาะกัน" ทำให้เค้าได้แต่ฟังและทำอะไรไม่ได้ วันนั้นแผลในร่างกายเยอะพอควร เป็นความคิดที่แย่ที่ทำร้ายร่างกายตัวเองเพื่อให้เค้าเลิก ซึ่งมันได้ผล แต่ต้องใช้เวลารักษาเช่นเดียวกัน

-ในเวลานั้นคิดว่า เราทนถูกทำร้ายร่างกายมา5-6เดือนแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ถ้าเราจะเป็นอะไรก็ขอให้มันจบเพื่อที่จะหายขาดกับคนแย่ๆแบบนี้ไป

จนตกเย็นวันนั้นคนข้างบ้านโทรไปตามคนที่บ้าน และก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกไว้ วันนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ยินดีอะไรอีกที่เราเอาเรื่องตัวเองมาแจ้งความทำไม? ที่บ้านตอนนั้นหัวเสียแต่ด้วยความเป็นห่วง เลยทำเรื่องราวให้จบๆ


หลังจากนั้น เค้าตามมาอยู่1-2วัน และคิดว่าเรื่องที่เราแจ้งความมันเรื่องโกหก จนเค้าได้ยินจากเพื่อนเค้าอีกที ก็เลยหายไปตลอดชีวิต จนถึงวันนี้

อาจมีพบเจอบ้างแต่เค้าก็หลบเราอยู่พอสมควร


สิ่งใดคือจุดเปลี่ยน ในเรื่องนี้ชัดเจนมาก

-หากความรักใดที่ต้องทนและมีการลงไม้ลงแรง มุมมองแพรว่ามันไม่โอเค

-หากมีข้อจำกัดมากมายจนเสียความเป็นตัวเอง นั่นไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความต้องการ

-ย้อนไปตามเรื่องราว หลายๆคนอาจโชคดี และหลายๆคนก็ยังทนอยู่


สรุป

•หลายๆคนเจอแบบนี้แต่เลือกทน และคิดว่าใช้กรรมให้หมดไป //ไม่ค่ะ ไม่ควรคิดแบบนี้ แม้การเดินออกจากปัญหายากนะคะ แต่ทุกคนมีทางเลือกค่ะ อย่าปล่อยให้ความไม่ถูกต้อง มาทำให้ชีวิตเราต้องจมแบบนี้

•หากคิดไปอีกว่าไม่เป็นไร เรารักเค้า// รักเค้าไม่ว่าแต่รักตัวเองด้วยนะคะ คิดถึงตัวเองบ้าง สงสารตัวเองบ้าง และมองอนาคตของเราให้ดีค่ะ

•หากเกิดเรื่องแบบนี้จริงๆ ควรมีการทำเรื่องตรวจร่างกายก่อนดำเนินเรื่องแจ้งความ ลงบันทึกไว้ เพราะอย่างน้อยถ้าวันข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นกับเราจริงๆ ตรงนี้จะพอช่วยได้ค่ะ

•การทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่สิ่งที่ควรเจอ และอย่ามองว่า"แฟนทะเลาะกัน,ผัวเมียทะเลาะกันคนอื่นไม่เกี่ยว" เป็นเรื่องปกตินะคะ ควรให้ความช่วยเหลือค่ะ เพราะอาจเป็น1ชีวิตที่คุณจะช่วยได้

•หลังจากนั้นมาแพรไม่เคยเจอคนทำร้ายร่างกายอีก แต่โลกเราเดี๋ยวนี้ดูยากค่ะ แต่ถ้าเกิดขึ้นอีกคงไม่ทน

•สิทธิทุกคนเท่าเทียมนะคะ อยากให้รักตัวเองมากๆและเลือกทางเดินชีวิตให้ดีค่ะ ให้โอกาสตัวเองเจอคนที่ดีนะคะ

•หลังจากเรื่องนี้ เปลี่ยนยังไง ทำให้แพรเป็นคนคิดตัดสินใจเด็ดขาด ,กล้าคิดกล้าเลือกทางให้กับตัวเองมากกว่าจะรอโชคชะตา, ใช้เวลาในการดูคน, มีสติในการเลือกคนโดยที่หัวใจเรายังไม่พอง ใช้ความคิดทบทวนก่อนที่จะมีใคร


ปล. หากรัก ก็ขอให้รักตัวเองด้วยนะคะ อนาคตและชีวิตที่เหลือสำคัญค่ะ

ดู 8 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Комментарии


bottom of page