"ต้องบอกก่อนว่าตรงนี้อยู่ที่คนนะคะ ของแพรส่วนใหญ่ได้ผลตลอดแต่วิธีอาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน ยังไงลองแล้วมาบอกด้วยนะคะ"
ถ้าเท่าที่ติดตามก็อยากจะเรียกตัวเองว่า "ราชินีนก" ฮ่าๆๆๆๆ
ไม่ค่อยสมหวังซะเยอะ แต่ถ้าเทียบในหลายปีก่อนสมหวังอยู่นะแต่3-4ปีถัดมาออกแนวโสดเรื่อยๆจนเรียนรู้คนหลายประเภท ทั้งเจ้าชู้ แต่งงานแล้ว หรือคบซ้อน จนปีที่แล้วมีความรักที่รู้สึกเปลี่ยนแปลงชีวิต และกลับสู่สภาวะโสดอีกปีกว่าๆ และตั้งแต่ตอนทำงานดูดวงมา สิ่งกีดกั้นยิ่งเยอะค่ะ ทั้งครูอาจารย์ และสิ่งที่แพรเคารพเหมือนจะช่วยสแกนคนเข้าออกไปในตัว ต่อให้เราเปิดใจหรือยังไงก็จะรู้ได้เอง(เดี๋ยวเล่า) และด้วยเวลาการทำงานขอแพรไม่เหมือนชาวบ้าน ทั้งคิดงาน ออกแบบเอง เขียนดวงเอง ทำให้เป็นอุปสรรค์ที่จะเจอใครใหม่
สิ่งที่แพรคิด และการเปลี่ยน!
•เราเมื่อหลายปีก่อน
-โสดแบบทำงาน+เรียน ด้วยความที่โลกส่วนตัวสูง เลยจะตัดความกว้างของคนที่เข้ามาไปอีก
-ไม่เคยนึกถึงเรื่องคาน หรือกำแพง จะมีแค่กำแพงมากกว่าแต่อย่าลืมสิ่กำแพงนั้นสร้างมาด้วยตัวเราเอง คานก็เหมือนกันที่เราเลือกจะไปอยู่ไม่ได้มีใครเอาไม้มาจ่อให้เราปีนขึ้นไปนินา
-*คิดแค่ว่าทำงานเหนื่อยๆ อยากมีใครซักคนไว้รัก ให้เราหายเหนื่อย ถามไถ่ ดูแล
-*ด้วยงานบันเทิงเจอคนเยอะก็จริงค่ะ แต่แพรเฉยๆทำตามหน้าที่มากกว่าจ้างงาน รับเงิน จบไม่เคยมีนอกรอบหรือไรเพราะไม่ค่อยผูกการสนิทกับใคร นอกจากคนรู้จัก
-*ใจร้อน อยากได้ผลเร็ว เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยsex มากกว่าให้เวลาการเรียนรู้ เพราะมองว่าช้าหรือเร็ว ปลายทางก็เหมือนกัน ปกติใช้เวลา1เดือนที่เริ่มต้นคุยและตามด้วยเตียง เหมือนไม่คิดอะไร จริงๆมีการคุยมาซักพักค่ะก่อนที่จะเริ่มต้น
-ตกโดยเฉลี่ยเปลี่ยนแฟนปีละคน หรือคนคุยที่ค่อนข้างบ่อย
*ตรงที่มีดอกจันไว้คือ ทริคหลักๆที่ต้องเปลี่ยนค่ะ
พอหลังจากขอพรและเริ่มเปลี่ยน!
ขอพรไม่เท่าไหร่สำคัญที่การเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยค่ะ ด้วยความที่พอมีinternetช่วงไหนไม่สบายใจ ธรรมะก็อ่านบ้างแต่แพรรู้สึกว่าไม่ได้เป็นคนที่อินกับตรงนี้ แต่จะเป็นบทความสั้นๆที่ทำให้เราอ่านแล้วคิดตามไปด้วยจะดีมากเลยไปเจอบทความนี้ค่ะ http://www.sangtean.com/love/love-articles/117-wrong-one หรือติดตามง่ายๆที่เพจ "เหตุเกิดจากความรัก"*Dungtrin* ด้วยความที่ผิดหวังมาตลอด ทำไมชีวิตเราเจอแต่เรื่องแบบนี้? เราก็ไม่ได้แย่ ไม่เคยทำตัวไม่ดีทำไมเจอแต่คนเจ้าชู้หลอกลวงคบซ้อนตลอด (จริงๆเป็นกรรมอย่างนึงที่เคยทำกับแฟนเก่า และหลังจากเลิกก็ไม่เคยสมหวังความรักอีกเลย เลยไปเจอบทความอีกเช่นเคยและอโหสิกรรมเค้า เพิ่งทำเมื่อปีที่แล้วหลังเลิกกับแฟนคนล่าสุด!)
สิ่งที่ต้องเตรียม
-ใจค่ะ ที่นิ่ง ณ เวลาอยู่สถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเวลาอุทิศบุญกุศล โดยไม่มีเรื่องใดๆในหัวเลย ฟุ้งซ่านก็ไม่ได้
-สมาธิ ที่ตั้งใจเพ่งขอในเรื่องนั้นๆ
-ความคิด ที่รวบรวมออกมา มากกว่าที่จะขอแล้วไหลออกทะเล เข้าใจใช่มั้ยคะ?
-ของไหว้แล้วแต่ ซื้อตามข้างหน้าเอาค่ะ แต่ถ้ากลัวโดนหลอกขายหรือซื้อแพงกว่าก็จัดเองดีสุดค่ะ ถ้าที่วัดแขกตรงนั้นปกติ แต่ถ้าหน้าCTW ไม่ควร เวลาแพรขอพรส่วนใหญ่ไม่ค่อยซื้อของไป ยกเว้นถ้าได้ผลเรื่องนั้นๆแล้วถึงจะเอาไปไหว้
ย้อนไป3-4ปีก่อน ตามที่ดอกจันไว้ คือเวลาขอพรมักจะพูดและทำแบบนี้
-คิดเสมอว่าอยากมีใครซักคนเข้ามา ดูแลเรา รัก และอยู่กับเรายามทุกข์สุข ขีดเส้นใต้ตรงคำว่า"ใครก็ได้"
-ถามว่าขอแล้วมันก็ได้ผลนิ่ มีคนเข้ามา ใช่ค่ะ แต่พอลองมาอ่านเรื่องกฎแห่งแรงดึงดูด ที่เราทำตัวแบบไหน คิดแบบไหนทำไมจึงมีแต่คนแบบนั้น ซึ่งก็ย้อนไปข้อบนค่ะยกตัวอย่าง ทำไมเราเห็นน้องร้องแรพเปอร์ มักจะมีสาวเซ็กซี่มาร่ายล้อม 1.อาจจะด้วยสถานที่ทำงานด้วย ตามผับบาร์ที่อโคจร 2.ความชอบและไลฟ์สไตล์นั้นๆของแต่ละบุคคล เช่นนักร้องหรือดาราคนนั้นๆรู้สึกว่าผู้หญิงเซ็กซี่ดูแล้วเร้าใจ ตื่นเต้น ท้าทาย ฯ จึงทำให้เจอคนแบบนี้เข้ามา
-การวัดแรงดึงดูง่ายๆเลยค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Fwe05coc4Xc สละเวลาซัก40นาทีเพื่อฟังและปรับความเข้าใจ จะว่าง่ายๆอีกแบบทำอะไรก็ได้อย่างงั้นค่ะ
-สิ่งที่พอได้เจอมา เค้าไม่ได้คุยกับเราคนเดียว ความสัมพันธ์ก็จบในรูปแบบเดิมๆ ทำให้เราผูกใจเจ็บ และสร้างเป็นกำแพงไปอีก แต่ลืมนึกถึงว่ามันก็เริ่มต้นมาจากตัวเองไงคะ
หลังจากได้ทดลองอยู่กับตัวเองและทบทวน แล้วเริ่มต้นใหม่♥
1.ลองนิ่งๆสงบซักอาทิตย์แล้วหาเหตุผล เราแค่เหงา เราแค่อยากได้ความรัก เราอยากอวดเพื่อน อยากมีเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายหรือปมอะไรในชีวิต ต้องลองทบทวน ของแพรแค่อยากได้การเติมเต็มค่ะ
2.เมื่อก่อนจะขอว่าขอใครซักคน ตามที่ดอกจันไว้เลยค่ะ "อยากได้ใครซักคนเข้ามาเติมเต็มในชีวิต ที่เค้าเองเป็นเหมือนเรา ขอให้มีโอกาสได้เจอ"
-ด้วยผลของการที่ขอ เราจะเจอคนสายเหงา สายซัม สายเพลย์บอยซะเยอะก็ตรงคำว่า "ใครก็ได้ไงคะ" เราไม่ได้ระบุไปนิ่นา การขอพรก็จะเป็นตัวกำหนดให้กว้าง จึงจะมีคนที่เหงาเหมือนกัน อยากได้เติมเต็มเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะมีแฟนแล้ว หรือไม่พอในชีวิต นั่นจึงไม่แปลกเลยค่ะ ที่ชะตาหรือสิ่งที่ขอจะทำให้เจอแบบนี้
-พฤติกรรมตอนนั้น เราเองก็รู้สึกใจอ่อนหรือเค้าเองอาจจะรู้จุดอ่อนเราว่า เราอยากได้ส่วนเติมเต็ม มันก็จะมีความสุขแค่ระยะเวลาสั้นๆ แค่นั้นให้เราเพ้อไปซักพักแต่พอหลายสิ่งอย่างไม่เป็นแบบนั้นมันก็จบ แล้วก็วนไปแบบนี้กับคนใหม่แทน
-เท่าที่สังเกต การที่คุยไม่นานแล้วเริ่มต้นด้วยsex(แล้วแต่การเริ่มต้นของแตะละคนนะคะ)บางคน1เดือน 3เดือน 6เดือนขึ้นไปถึงมี แต่การที่เริ่มต้นด้วยแบบนี้เป็นการ คิ ด ผิ ด ม า ก ค่ะไม่ควรเลย เพราะจะทำให้เราขาดขั้นตอนการเรียนรู้ที่สำคัญว่าเค้าเป็นคนยังไง แบบไหน เหมาะสมกับเราจริงหรือเปล่า
3.พอแพรคิดทบทวนได้แล้ว ลองนิ่งๆค่ะ แล้วเป็นการลบล้างตั้งจิตใหม่ที่จะไม่ขอและทำตัวแบบข้อ2.
-"ขอให้เจอคนที่ดีเข้ามาในชีวิต คนที่...(แล้วแต่จะขอแต่ต้องเป็นในทางที่ดีและคิดบวก)..พร้อมที่จะอยู่กับเรา ทั้งความคิด มุมมอง ทัศนะคติ ไลฟ์สไตล์ ไม่ทอดทิ้งยามเรามีปัญหา พร้อมที่จะอยู่ไม่ว่าทุกข์หรือสุข ส่วนใครที่คิดไม่ดี คิดหลอกลวงทำร้าย ขอให้ออกไปจากชีวิต หรือทำให้ได้เห็นความจริง"
-ในกรณีล่าสุด แพรเองมีโอกาสไปขอพร ก็ลองดูค่ะ สิ่งคนที่คุยอยู่ก็มีการเฟดหายและกลายเป็นความไม่ใช่ จริงๆแพรเองก็รู้สึกมาซักพักแล้วค่ะ และเคยบอกเค้าไปแล้วว่าแฟนเก่าเค้าจะกลับมา จนในที่สุด มันจบ ตอนนั้นเหมือนขอไปว่า "หากคนที่คุยคบอยู่ตรงนี้ ถ้าเค้าดีขอให้อยู่กับเรา แต่ถ้าเค้าไม่ใช่ ด้วยบุญและกรรม หากคิดร้ายหรือไม่ดี ขอให้ได้เห็นความจริง" ถ้าจำไม่ผิดแพรขอกลางกันยา ต้นตุลายุติการคุย
4.ขอแล้วตัวเราเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงนะคะไม่ใช่ยังทำตัวแบบเดิม ยังไงมันก็ไม่ได้ผลหรอกค่ะ แพรเอง ลองเปลี่ยนความคิด ไม่คบใคร หรือหาใครแค่เราอยากมีคนเติมเต็ม เปลี่ยนมาเป็นการคุยกันก่อน ใช้เวลา มีโอกาสพบเจอกันบ้าง ได้ฟังหลายๆมุมมอง จากเพื่อนของเรา เพื่อนของเค้า ใจเย็น ซึ่งจริงๆแพรเพิ่งมาเปลี่ยนการขอพรได้1-2ปีนี้เองค่ะ ก็ทำให้ได้เจอแฟนที่คบเมื่อปีที่แล้ว คนแรก ^^
5.สิ่งที่สำคัญค่ะ คือบุญและกรรม และการให้ ให้ในที่นี้ด้วยความรู้สึกของเราจริงๆ ไม่ว่าจะทำบุญแบบไหน การให้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่นะคะ ถ้าเราไม่เคยแล้วใครจะมาให้เรา? เช่นการบริจาคสิ่งของ การช่วยเหลือคนอื่นด้วยแรงและใจโดยไม่หวังผล ในการอุทิศบุญก็ศลส่วนใหญ่ ก็ขอให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มของ พระคุณเจ้า พ่อแม่ เจ้ากรรมนายเวร รวมถึงอดีตคนรักก็เช่นกันค่ะอาจจะมาเป็น1ในนั้น และแล้วแต่บุคคลที่เราเคารพนับถือ ให้เค้าได้มีความสุขความเจริญผ่อนหนักให้เป็นเบาในเรื่องของบาปบุญที่ทำไว้
6.สำหรับแพรขอที่ไหนก็ไม่สำคัญค่ะ วัดประจำก็ได้ ทำบุญใส่บาตร ไปแล้วกรวดน้ำ หรือสวดมนต์ไปแล้วก็ได้ค่ะ พอการที่ทำตามข้อต่างๆ ใจจะเหมือนกับคำขอตรงนี้คลุมออร่ากระจายออกไป เป็นสิ่งที่จะดึงดูดคนแบบที่เราขอ ด้วยการกระทำที่เราทำ เปลี่ยนสังคมหรือการพบเจอ
7.ถ้านับสถานที่ พระตรีมูรติ ที่หน้าCTW ค่ะหลักๆแพรขออยู่ที่เดียว เพราะไม่ว่ายังไงแพรไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นที่นี่ หลายคนอาจจะวัดแขกสีลม ศาลหลักเมือง แล้วแต่ความสบายใจจริงๆค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าแพรผ่านก็จะแวะมาที่นี่ค่ะ รวมถึงเรื่องงานด้วยที่จะให้มีคนรักและคนเมตตา และบางทีแพรไม่ได้ซื้อดอกไม้หรือของไหว้ค่ะ จะเป็นปากเปล่าซะมากกว่า
คำเตือน หรือข้อคิด
-แพรไม่เคยขอแบบผ่านไปทีเช่น สาธุขอให้เจอคู่หรือแฟนซักทีนึงเถ๊อะะะะ/ขอให้สมหวังในความรักกับเค้าบ้าง <<ก็ตามที่บอกอะค่ะมันกว้างไป ไม่ขอส่งๆตั้งใจด้วยใจเราจริงๆและเปลี่ยนแปลง
-ขอแล้ว ควรมีการแก้ค่ะ ลองไปหาการแก้ของพระ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ เข้าข่ายบนมั้ย?แพรไม่แน่ใจเท่าไหร่ค่ะ แต่ควรที่จะมี
-ที่สำคัญมากๆทั้งนี้ คือบุญและกรรมล้วนๆค่ะ ที่ทำให้เกิดและไม่เกิด เกิดเร็วหรือช้า ทุกอย่างยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงค่ะ
-หลังจากความรักปีที่แล้วจบมา แพรเจอใครก็มีมาเรื่อยๆแต่ อยู่ดีๆการขอพรก็ทำให้รู้ว่าเค้ามีแฟนแล้ว โดยที่เรายังไม่ต้องทำอะไรเลย หรือบทจะไม่ใช่ เค้าก็หายไปซะเฉยๆ มาบอกแพรอีกทีว่าเค้าเจอคนที่ใช่กว่าไปได้ดีกว่า แม้แต่ต่างประเทศอยู่ดีๆก็ได้สืบจนเจอว่าเค้ามีแฟนแล้วแต่มาคุยกับเรา แพรเลยมองว่าสิ่งสำคัญคือการยอมรับความจริงแล้วก้าวไปต่อค่ะ
แพรมักจะบอกเคล็ดนี้หลายๆคนนะแต่เหนื่อยค่ะ 5555 เลยถือโอกาสบอกที่เดียวละกัน และอย่ายึดติดมากนะคะเพราะบางทีวิธีนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคนค่ะ
ปล. อ่านไม่ไหวก็พ่ายแพ้ไป ฮ่าๆๆๆ เพราะถ้าข้ามก็จะขาดขั้นตอนสำคัญ
Comments