top of page
  • รูปภาพนักเขียนPrae

การตกหลุมรักครั้งล่าสุด เมื่อไหร่กันนะ

หากลองนึกย้อนดีๆอาจจะเป็นแฟนคนแรก , คนที่เดตด้วย หรือความสัมนพันธ์ที่ทำให้ใจเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ แต่มันล่าสุดเมื่อไหร่กันนะ?


และไม่ว่ามันเป็นโมเมนต์ที่ดีแค่ไหน มันจะซึมซับความรู้สึกและช่วงเวลาตอนนั้นไว้เหมือนฟองน้ำเลยล่ะ ทั้งเพลงที่แว่วมาตอนนั้น , อาหารเครื่องดื่มที่ไปด้วยกัน เทสรสยังจำได้ หรือแม้แต่บรรยากาศตรงนั้นแม้เราผ่านไปกี่ครั้งมันก็เหมือนภาพ rewind ที่ย้อนเข้ามาในความทรงจำ

.

สำหรับแพรนั้น มันเพิ่งได้เมื่อเดือนที่แล้วค่ะ และรู้สึกว่ามนุษย์เราจดจำช่วงโมเมนต์สั้นๆได้เพียงบวกลบไม่เกิน 1 นาที โพสนี้เลยอยากวางไพ่พักดวงแล้วมาแชร์ให้อ่าน และเป็นการบันทึกสำหรับตัวเองด้วย ที่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น อี ก เ มื่ อ ไ ห ร่


ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่แล้ว แพรกลับมาเล่น tinder อีกรอบที่เอาจริงๆมันเป็นการทบทวนอะไรบางอย่างหลังจากเลิกเล่นไป 4-5 ปี เพียงเพราะอยากมั่นใจกับตัวเองว่า " เ ร า จ ะ พ บ รั ก ใ น นี้ จ ริ ง ๆ ห ร อ ?"


ซึ่งก็ลองโหลดมาไม่ถึง 7 วันก็รู้สึกเบื่อ ด้วยเพราะชอบการใช้เวลาร่วมกันจริงๆ และมันเป็นนิสัยของตัวเองล่ะซึ่งหลายๆคนเล่นแอปก็อาจจะเป็นคือขี้เกียจแนะนำตัว จนไปแมชหนุ่มคนนึงที่รู้สึกสะดุดตา และมองผ่านรูป กับกิจกรรมที่เค้ามีอะไรที่น่าดึงดูดและสายตาของเค้าในรูปนั้นช่างดูมีความสุขในกิจกรรม ก็กดไป1ที , โดยผ่านไปไม่นานกว่าเจ้าตัวจะกดแมช ก็อิทธิพลจาก tinder gold ไงล่ะฮ่าๆ และเราเปิดเฮดคุยกันเรื่องวันหยุดกับการดำน้ำของเจ้าตัวเค้าล่ะ

.

แต่เราไม่ได้คุยอะไรกันเยอะในคืนนั้น และกลับเป็นวันรุ่งขึ้นที่ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ทั้งการนัดเจอแบบกะทันหัน เพราะใจเราเองอยากไปกินกาแฟนั่งชิลๆวางแผนปีของตัวเอง ถ้าให้พูดตามตรงเราไม่ได้รู้โปรไฟล์เค้าเท่าไหร่เลยเพราะมีเวลาแค่ follow instagram และ text คุยสั้นๆจบที่ขอเบอร์ โจทย์วันนั้นคือลุคชิลไม่ต้องสวย เราก็ว่าดีแฮะคงแค่กาแฟแล้วกลับก็ดีเหมือนกัน และหลังจากนั้นภายใน2ชม. ก็เจอกัน และเรื่องราวมันก็เกิดขึ้น


ความเชื่อใจ / ความปลอดภัย / การเป็นตัวเอง / การไม่คาดหวัง , 4 สิ่งนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ


จริงๆตอนนั้นมันเริ่มจากการไม่คาดหวังแหละ เจอกันตามนัด แนะนำตัวกันนิดหน่อยและย้ายไปร้านที่นัดโดยวันนั้นใช้เวลาราวๆ2 ชม. มารู้ตัวอีกทีเหมือนเรารู้จักกันทั้งชีวิต จากแค่กาแฟย้ายไปที่ห้างเพื่อกินข้าวเย็นกัน ซึ่งในหัวตอนนั้นโล่งมากเพราะไม่ใช่แผนที่วางไว้ ก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าตัวในการเลือกร้านเพราะนี่โนไอเดียจริงๆ ฮ่าๆ ตลอดระยะทางที่กำลังไปนั้นได้ทีการคุยกันมากขึ้น เค้าเริ่มแนะนำตัวเองในมุมอื่นๆ คุยเรื่องเพลง ไลฟ์สไตล์ เหมือนเราเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานแบบนั้นเลยจนเค้าแนะนำเพลงนึง ที่เรารู้สึกโลกดูสดใสมาก อย่างเพลง "Gym and Swim - Sunrise"



กดฟังระหว่างอ่านได้นะ ;D


.

ที่ตั้งแต่เพลงนี้เปิดมา มันมีพลังงานบางอย่างตั้งแต่แรกเจอ ได้พูดคุย จนเพลงนี้ ที่มีความรู้สึกว่าทำไมมันสบายจัง , ทำไมชีวิตเรามันหนักมากๆเลยแล้วทำไมเราเครียดแล้วโยนใส่คนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันนะ? แล้วทำไมเค้าพลังงานดีจัง ดีจนเราค่อยๆเป็นตัวเองแบบไม่รู้ตัวทั้งที่ปกติจะมีกำแพง และคำถามอื่นๆที่มันค่อยๆผ่อนคลายจนถึงห้าง มันเป็นภวังค์ที่เหมือนฟังเพลงในรถแต่เหมือนพร้อมเดินทางไปด้วยกันแบบนั้น , ทั้งหมดจบที่เรากินข้าวเสร็จคุยกันต่อในลานจอดรถจนห้างใกล้ปิดถึงย้าย ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นน่าจะไม่มีใครอยากกลับแน่นอน และต่อที่จอดข้างทางซื้อของแล้วนั่งคุยในรถกันต่อจนเวลาล่วงเลยไปถึงตี2ของอีกวัน

.

วันที่2 ก็นอนไม่หลับและมันมากพอที่จะทำให้ค้นหาข้อมูลของเค้าคนนั้นก็เจอเรื่องที่มันมีบางอย่าง sync กันแฮะ และไม่นานเจ้าตัวทักมาจบที่ทุกอย่างเร่งรีบอีกแล้วไปเดินตลาดเหงาอย่างจตุจักรในยุคโควิด แน่นอนวันนั้นไหนๆก็นอนไม่หลับอยู่แล้วเลยเลือกที่จะไปเอาพลังงานออกกับการเดินเล่น ที่มันเริ่มมีมุมน่ารักขึ้นแฮะ การคุย การที่ได้เห็นมุมมองความขึ้นมากขึ้นท่ามกลางการนอนน้อย


จบที่ช่วงกลับได้นั่งคุยกันเรื่องดวงสั้นๆสนุกๆ และส่งกลับด้วยเส้นทางที่ได้มุมมองแง่คิดบางอย่างที่ตกตะกอนกับตัวเอง อย่างเรื่องการเคารพตัวเอง การที่เป็นพื้นที่และสิทธิ์ของแต่ละคน จนช่วงใกล้ถึงแวะซุปเปอร์มาเก็ต ที่รอบนั้นล่ะความรู้สึกภวังค์ครั้งที่ 3 มันเข้ามาด้วยภาพที่เราอยากเห็นมานานๆมากๆแต่ไม่เคยบอกใครเลย และไม่คิดว่ามันมีความ flash back บางอย่างเข้ามา เอ่าแล้วครั้งที่ 2 อยู่ในไหน? ก็ในรถเลยจ้า..ที่มันเป็นเส้นทางยาวนานนิดหน่อยที่ได้ใช้เวลาร่วม


.

เล่าเพียงสั้นๆแต่สิ่งที่รู้สึกมันนานกว่านั้น ตั้งแต่ศึกษาเรื่อง spiritual เพิ่ม บวกกับเรื่องราวเซนส์สัญญาณบางอย่าง และฝันต่างๆที่มาก่อนหน้านั้น(แพรจดไว้นะในส่วนตัวแต่ยังไม่เกิดกับครั้งนี้) จนมั่นใจพอที่จะคอนเฟิร์มกับตัวเองว่า " ฉั น ต ก ห ลุ ม รั ก เ ข้ า แ ล้ ว ล่ ะ "






เป็นครั้งที่ 2 ที่เรื่องราวมันเกิดด้วยความรู้สึก ฮอร์โมน หรือเคมีในสมองที่นับได้ตลอดวัย 31 เลยล่ะ และเป็นครั้งแรกที่มันมีบางอย่างที่ลึกซึ้งที่นิยามคำต่อมาว่า " s e r e n d i p i t y " (มีอ่านได้ในref.ข้างล่างค่ะ)


ที่พอมาศึกษาเรียนรู้ทางเรื่องจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นนั้นมันจะเข้าใจกลไลเรื่องของสมองและพลังงานเข้าไปด้วย ที่การเป็นผีเสื้อบินเต็มท้อง , การที่เราได้เจอความสัมพันธ์ที่ดี คนที่มีพลังงานที่ดี , และจังหวะของเวลามันคือเรื่องสำคัญ


รวมถึงเป็นคนแรกจริงๆที่มีเรื่องเหล่านี้มาเกี่ยวจนแอบรับมือไม่ได้เหมือนกันเพราะไม่เคยเจอกับตัวเอง ซึ่งแพรได้อะไรจากเรื่องราวสั้นๆตรงนี้เยอะมากที่เข้าใจแล้วว่า


- ไม่มีการบังเอิญ และเราเป็นคนเลือกรับ (แต่เลือกกดแมชได้นะจ๊ะ)


- ความรักมันไม่มีอะไรผิดถูกหรือตายตัวว่าจะเริ่มต้นแบบไหน (ซึ่งนี่เป็นเจ้าแม่ทฤษฎีไงล่ะฮ่าๆ) , ถ้าไม่นับทางกฎหมายน่ะนะ


- เมื่อมันเริ่มจากการไม่คาดหวัง , เป็นพื้นที่ปลอดภัย(ได้ทั้งครอบครัว , คนรัก , เพื่อน 1ในพื้นฐานความสัมพันธ์) , และความเชื่อใจ เลยกลายเป็นเราได้เป็นตัวของตัวเองที่ทั้งหมดกลายเป็นพลังงานของความสุขไปด้วยเลยจริงๆ


- ทุกคนควรมีโอกาส

และอื่นๆอีกที่แพรว่ามันซับซ้อนกว่านั้น

.

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว มันจะอันตรายรึเปล่า?ที่เราเจอคนที่ยังไม่รู้จักเค้าดีพอ? การใช้เวลากับคนแปลกหน้า แพรมองว่าถ้าเราไม่เรียนรู้ ไม่เคยมีประสบการณ์ก็คงจะมองแบบนั้น แต่ลองให้เป็นเรื่องที่เราได้ใช้เวลากับหัวใจ ตัวเอง และการบันทึกเรื่องราวของตัวเองดีกว่าค่ะ ซึ่งเราอาจไม่สามารถเอาสิ่งต่างๆมาตัดสินได้ แต่ถ้าแนะนำในฐานของคนที่ผ่านตรงนี้มาพอประมาณ ลองเริ่มจากการนัดเจอช่วงกลางวัน ในร้านที่เดินทางสะดวกหรือเรารู้สึกปลอดภัยกับสถานที่ที่จะไปค่ะ



แพรเองเป็นคนนึงที่ไม่ชอบการเล่นเกมลองใจ , mind game และมองว่าเป็นคนทุ่มเทที่จะใช้เวลาเรียนรู้โดยอ่านคน อ่านสถานการณ์ mood tone สนทนาตรงนั้นหรือบรรยากาศเพื่อความมั่นใจของตัวเองค่ะ , อ่อ ความมั่นใจในตัวเองมันสำคัญนะที่ทำให้เรามีเสน่ห์ได้ไม่น้อยเลย


จนในวันที่มาวิเคราะห์จริงๆแบบมีสตินั้นและเรียบเรียงดีพอ

- เราไม่เจอคนที่ทำให้รู้สึกแบบนี้มานานมาก ก็ราวๆ7ปีได้ ซึ่งมันต่างจากคนอื่นๆที่เคยเดตเมื่อ 4 ปีที่แล้วนะ


- อาจเพราะเราไม่เจอคนที่เค้ากันได้แบบนี้มานานมันเลยไม่ได้มีกำแพงเพราะกลายเป็นเราเองที่เลือกจะลดลง ยกเว้นท่าทีของเค้าเองทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่น่าเชื่อใจ(เชื่อถือ) เราก็คงตั้งอิฐสร้างกำแพงใหม่ ดังนั้นอย่ารอให้ใครมาทุบกำแพงเราก่อนเพราะอาจจะหนาเกินก็ได้นะคะเราลดเองได้นิ่


- ด้วยต่างวัยด้วยและชีวิตเค้าผ่านอะไรมาไม่น้อยเลยทำให้การเข้าใจมันเกิดขึ้น สิ่งที่เติมเต็มให้กันมันคือ "ความสบายใจ" (5ข้อละ) ที่เมื่อ 4 อย่างแรกมันเกิดสิ่งนี้ก็ตามมาเลยทำให้ตลอดการเจอกันมันเรียบง่ายมากๆ


- มันมีเรื่องเซนส์ และความฝัน รวมถึงการที่พึ่งดูดวงไปล่าสุดด้วย ที่อธิบายยากเลยให้เป็นเรื่องของเวลา เพราะเท่ากับทุกคนมีโลกของตัวเอง


- มุมมองนึงของความสัมพันธ์ที่ชอบมากๆ เราควรจะเป็นวงกลม 2 วงที่กลิ้งไปด้วยกัน มากกว่าการที่จะมารวมเป็นวงเดียวกันซึ่งนั่นอย่างลืมว่า ทุกความสัมพันธ์จงให้ทุกคนได้เป็นตัวของตัวเองและมีโลกของตัวเอง เพราะมันเป็นการเคารพความเป็น Unique ของแต่ละคนจริงๆ


- การไม่ตัดสินในความสัมพันธ์หรือความรู้สึกมันมีอยู่จริง เรื่องนี้อาจใหม่กับเราซักหน่อยที่มันจะไม่มีดีหรือแย่ ผิดหรือถูก แต่มันคือจังหวะที่เราจะได้รับ เหมาะ หรือพอดีกับสิ่งนั้น


- ก่อนจะคาดหวังว่าเค้าต้องมาเป็นแฟนเรา เป็นคนที่ดีนั้นจิปาถะ แต่ควรเริ่มกลับมารักที่ตัวเองก่อน เป็นแฟนที่ดีให้ได้ก่อนและ เติมตัวเองให้เต็มพอที่จะส่งต่อพลังงานกายและใจตรงนี้สร้างความรู้สึกดีๆให้กันและกัน แล้วมันจะเป็น drive ที่ทำให้ความสัมพันธ์มันมีเรื่องดีๆเข้ามาด้วย , เพราะคนที่เข้ามา หรือใช้เวลาด้วยเค้ารู้สึกถึงกันเรื่องตรงนี้ได้นาา


- ความสัมพันธ์ไม่ได้มีแค่ฉันท์แฟน แต่มันได้ทุกวาระ ทั้งพี่น้อง เพื่อน มิตรภาพ และอื่นๆดังนั้นลองไม่คาดหวังดูค่ะ


- Everything happen for a reason / ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลของมันเสมอ (จริงมาก)


- รักไร้เงื่อนไข , รักที่ไม่ครอบครอง คือสิ่งที่รู้สึกได้และมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจนะ


- และอย่าลืมขอบคุณที่สิ่งที่เราได้พบเจอ ได้เรียนรู้ :)


มีหลายสิ่งที่แพรได้เรียนรู้จากเรื่องราวเยอะมากในตลอด 2 เดือนมานี้ แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆที่แพรว่าอย่างน้อยตัวเองยังได้รู้จักการตกหลุมรักอีกครั้ง ที่เพิ่มในมิติของ serendipity คือคนเราไม่มีใครอกหักหรือล้มเหลวเสมอถ้าเราไม่เรียนรู้ที่ตัวเราก่อน แพรเองตีการโสดประมาณ 7 ปีได้ และ4ปีที่ผ่านมาได้กลับมาอยู่กับตัวเองผ่านอะไรมาเยอะเลยจนไม่คิดว่าจะมีโมเมนต์แบบนี้กับตัวเอง ที่มันเป็นสิ่งที่ confirm มากกว่าว่าชั้นก็ยังมีหัวใจนะฮ่าๆ แต่มันทำให้เรียนรู้ว่านอกจากรักแล้ว การรักตัวเองนั้นสำคัญมากจริงๆที่เมื่อเริ่มจากพลังงานภายในเล็กๆมันมีผลต่อโลกและสิ่งที่ทำมากๆเลยล่ะ

.

.

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

แล้วการตกหลุมรักของคุณ ครั้งล่าสุดเป็นยังไงบ้าง , เล่าให้ฟัง หรือแท็กเพื่อนเพื่อเช็คสภาวะหัวใจกันหน่อยนะคะ




______________________________________________________

.

แพร Madame Q Swords ❤


- รับดูดวงส่วนตัวเน้นวางแผนชีวิตครอบคลุมทุกเรื่องทั้งงาน เงิน ความรัก สุขภาพ และไกด์ไลน์แนวทาง พร้อมกับพูดคุยตลอด 2 ชม. เต็มและไม่จำกัดคำถาม เพราะความสบายใจต้องมาก่อนค่ะ 🙂


- รับสอนอ่านไพ่ เรียนดูดวงไพ่ยิปซีสำหรับดูดวงให้ตัวเอง และเน้นไปทำเป็นอาชีพ


- รับเขียนคอนเทนต์สำหรับสินค้า , บริการ และโปรเจคที่น่าสนใจค่ะ 😃



ref. เข้าใจสารในสมองตอนตกหลุมรัก / และอาการ serendipity

- https://www.freepik.com/free-vector/decorative-background-with-holographic-gradient-colors-grainy-texture_16183189.htm#query=pink%20gradient&position=46&from_view=keyword

.

.

.

bottom of page