lovecase 1 ความไม่ชัดเจน บนความชัดเจน?

เรื่องเล่าวันนี้เธอเองก็เป็นลูกค้าแต่เป็นเพื่อนสนิทของแพรด้วยค่ะ วันนี้จะมาเล่าในpartของเพื่อนสนิท ที่เป็นการเล่าสู่กันฟังค่ะ

วันนี้แพรเองแชร์ด้วยจากเพจหนึ่งไปให้เพื่อนสาว เธอเองก็ทักมาด่วนแบบคันปากอยากเม้าท์ว่าดวงที่เราดูไป มันตรงนะมีคนใหม่เข้ามา บลาๆๆๆงี้ๆๆๆ ตามสไตล์เค้าล่ะ แต่ความพีคของเรื่องนี้คือ หนุ่มคนนึงที่เธอดูๆมาซักพัก..

+เพื่อนสาวแพรคนนี้เป็นคนสวยและเก่ง โสดมาได้เดือนกว่าๆ กับคนเก่าของเธอนั้น จบแบบไม่สวยซักเท่าไหร่เพราะตัวคนเก่านั้นเจ้าชู้และยังอยากสนุก เธอจึงคนเข้าหามีเยอะมาก แต่ซักพักก็ค่อยๆหลุดหายไปตามวงจร จวบกับที่เราดูดวงกันมาจึงมีอยู่แค่ไม่กี่คนที่เธอคิดไว้ หนุ่มคนนี้ทำงานอยู่ที่เดียวกัน มีบุคลิกที่นิ่ง สมาร์ทดูดี หลายคนจับจ้องทำนองนี้เลย

จนกระทั่งวันนี้ เธอเองนึกถึงดวงที่แพรทายไว้ว่า ผช.คนนี้ก็มีคนคุยนะแต่ยังไม่เลือกใคร จู่ๆเธอก็แอบแซวถามขณะที่จับมือกันอยู่ว่า

เพื่อน: นี่ถามหน่อยสิ่ ที่เป็นอยู่นี่คิดอะไรด้วยรึเปล่า(รวมกับเหตุการณ์ต่างๆเธอจึงถาม เพื่อความชัดเจน)

ผช: (นิ่ง...ไม่ได้ตอบอะไร)

เพื่อน: ถ้าพี่มีคนอื่นหรือคนคุยเยอะก็ตามสบายเลยแต่แค่อยากรู้เรื่องที่เราเป็นตรงนี้

ผช: (นิ่ง...ไม่ได้ตอบอะไร)

เพื่อน: เค้าจะถามครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ(เธอถามครบครั้งที่3พอดี) ถ้าไม่ได้คิดอะไรก็พอเถอะ เป็นพี่เป็นน้องร่วมงานดีกว่า (เธออยากรู้เพราะถ้าคิดก็จะได้ให้โอกาสเค้า แต่ถ้าไม่ก็จะได้ให้โอกาสตัวเองกับคนใหม่ที่พร้อมกว่า ^^)

ผช: (นิ่งไปราวๆ1นาทีหลังจากเธอถาม) คิด....แต่ขอค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้มั้ย?

เพื่อน: (เธอเองก็รู้คำตอบละ และมีคำตอบให้ตัวเองในใจกำลังจะลุกตัวหนี)

ผช: (ยังจับมือเธอเพราะคิดว่าเธอจะลุกหนี) แล้วที่ทำอยู่นี่ไม่พิเศษตรงไหน?

จากสนทนาเบื้องต้น เห็นอะไรมั้ยคะ? ถ้ายังจะมาขยายค่ะ

-ถ้าสำหรับคนที่ใจไม่แข็งพอ กำลังหัวใจพองโต เห็นเป็นสิ่งดีงามก็อาจจะหลงเคลิ้มและคิดไปเชิงว่าเค้าเองก็มีใจหรือคิดเหมือนกันกับเรา

-จริงอยู่ค่ะ ทุกอย่างใช้เวลานะคะ แต่การจะดูใจใครซักคนก็ใช้เวลาเช่นเดียวกันค่ะ เพื่อนสาวแพรถามถึงความชัดเจน แต่ผช.คนนี้กลับตอบคำถามด้วยคำถามที่ว่า "คิด แต่ขอค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้มั้ย?" มองภาพง่ายๆเหมือนเราชอบมือถือเครื่องนี้อะค่ะ ทั้งที่รู้ว่าอาจจะมีรุ่นที่ดีกว่าหรือใหม่กว่าแต่ก็รูดบัตรไปแล้วค่อยรอผ่อนแต่อาจจะยังไม่ได้มือถือมาใช้เลยซะทีเดียวภาพคล้ายแบบนี้เลยค่ะ นอกจากจะคิดแล้ว แถมยังขอเวลาในการเรียนรู้กัน ซึ่งสิ่งที่เค้าปฏิบัติมันก็คือ การเรียนรู้/คุย/คบอยู่แล้วแต่เหมือนการที่ขอลองใช้สินค้าก่อนนะเดี๋ยวถูกใจมั้ยยังไงค่อยว่าหรือถ้าไม่ดีคงคืนอีกที ทั้งๆที่ตัวเองรูดบัตรไปแล้ว <<ทำนองนี้อีก

-ไม่แปลกนะคะ ที่คนเรามีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้กันค่ะ หรือรู้จักกันก่อน แต่สิ่งที่เค้าพูดมานั้นแปลว่าที่ผ่านมายังไม่นับแต่ที่จะนับคือหลังจากนี้ จวบกับสิ่งที่เพื่อนแพรเคยมีประสบการณ์มา และคิดทบทวน มันคือทำพูดที่ใช้เป็นการ "กั๊ก" ค่ะ ทั้งๆที่ประโยคตรงนี้ดูเป็นว่าเค้าก็คิดนี่แล้วจะถามอีกทำไม บ้ารึเปล่า แต่ความรู้สึกคือมันไม่ชัดเจนถูกต้องมั้ยคะ?

-แถมต่อด้วยอีกว่า ที่ทำอยู่นี่มันไม่พิเศษตรงไหน? จริงค่ะมันเป็นอะไรที่พิเศษสำหรับคนๆนึงเลย แต่ถ้าจุดเริ่มต้นเค้าเองแอบทำลับๆกลัวเพื่อนร่วมงานเห็น กลัวคนรู้ว่าคุยกัน หรือต้องแอบไปรับส่ง ซึ่งมันไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงความชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วค่ะ เพราะว่าเค้าคงจะมีความลับที่เปิดเผยไม่ได้ แต่ถ้าเค้าคิดจริงจังตั้งแต่ตอนแรก ก็ควรจะเปิดเผยตั้งแต่ตอนแรกเช่นด้วยกันค่ะ กับคำที่ว่า"ที่ทำอยู่นี่มันไม่พิเศษตรงไหน"

ก็ตรงที่หลังจากนี้ ถ้าคบกันจริงๆหรือคนอื่นรับรู้แล้ว การกระทำตรงนี้จะยังพิเศษสำหรับเธออยู่มั้ยว่าเค้าจะจริงจังแค่เธอคนเดียวต่างหากค่ะ

สรุป

-เพื่อนสาวแพรกับแพรคิดเห็นตรงกันค่ะว่า เค้าเองก็มีคนอื่นเช่นเดียวกัน แต่ขอเวลาเพื่อที่จะดูคนอื่นพร้อมกันด้วยแค่ไม่ใช่ขอเวลาเรียนรู้กับเธอคนเดียว

-ประโยคนี้เธอย้อนนึกถึงว่าเหมือนแฟนเก่าเคยพูด และพฤติกรรมของเค้าคล้ายกันมาก

-ประโยคซ้อนประโยคแบบนี้ ที่ดูเหมือนจะชัดเจน แต่เค้าชัดเจนแล้วค่ะ ว่าเค้ากั๊กคุณนั่นเอง

-และหากเค้าจะชัดเจนจริงๆมันจะมีเพียงไม่กี่คำค่ะที่รู้เลยว่าเค้าชัด เช่น เป็นแฟนกันนะ / คบกันนะ โดยคำพูดเหล่านี้มักจะมาโดยไม่มีเงื่อนไขตามมาเหมือนคำว่า *ขอค่อยๆเรียนรู้กันไป* เพราะความรักความสัมพันธ์ที่เริ่มมีเงื่อไข หรือข้อแม้ นั่นแปลว่าไม่ใช่ค่ะ :D

ขอบคุณที่อ่านบทความนี้นะคะ จริงๆแล้วมีหลายอย่างมากค่ะที่เราไม่ทันสังเกตซะเอง เลยอยากนำมาเป็นlove case ที่มาเล่าสู่กันฟังและอยากให้มีการคิดทบทวนจริงๆก่อนที่จะตัดสินใจใดๆแล้วไม่เสียใจทีหลังค่ะ

ปล.เรื่องนี้ได้รับการอนุญาตจากเพื่อนสาวแพรแล้วค่ะ